พูดตามตรงครับ
ไม้ 4 ไม้สุดท้ายเป็น EGO ของคนเทรดครับ แทนที่ จชกท จะเปิดทีละออเดอร์ แต่เปิดทีละ 3 - 4 โดยที่ของเก่ายังไม่ได้ปิด ผมไม่เข้าใจระบบท่านเท่าไหร่ แต่ที่แน่ ๆ
อย่างแรกที่ท่านอาจจะไม่มี คือ เป้าต่อวัน หรือจังหวะสัญญาณการเข้า เพราะมันติดกันมาก นั่นทำให้ผมเดาว่าท่านน่าจะอยากเอาคืน
อย่างที่ 2 เนื่องจากมันเกิดจากความรู้สึกของเรา มันไม่ใช่ DD ผมเดาว่าท่านน่าจะเทรดกราฟต่ำกว่า 1 ชั่วโมงถึงให้สัญญาณถี่ขนาดนี้ และกิน Pip น้อย ผมไม่แน่ใจว่าท่านได้ Back Test หรือเปล่า? แต่เท่าที่เราอยู่กันมาเหมือนจะไม่นะครับ ถ้ามันมาจาก DD ของระบบ ท่านน่าจะไม่ combo 4 ไม้ทั้งที่ไม่ได้ปิดออเดอร์แรก
อย่างที่ 3 ท่านน่าจะยังแก้ปัญหา Mindset ไม่ได้ แม้ว่าจะแก้เปราะที่หนึ่งด้วย การถอนทุกวันแล้ว แต่กับ Exposure ขนาดนี้ เรียกว่าใหญ่เกินไปครับ (สำหรับผมนะ)
สุดท้ายไม่ใช่ ข้อสังเกตุ ยินดีที่มีคนเห็นต่าง เรื่องของการเทรดแบบนี้ แนวคิด Mindset ตอนแรกท่านถือว่าดีมากครับ ผมจะลองจำไปใช้ในระบบ ผมให้ความเห็นเรื่องของระบบเข้า ระบบแบบนี้ถ้าหาจุดกลับตัวไม่แม่นน่าจะโดนตอดทุกครั้งไป ปัญหาของมันคือ จุดเข้าเลยครับที่เราไม่รู้ Back Test ก่อนและทดสอบระบบใน TF เล็ก น่าจะดี การกระจายของกราฟน่าจะเข้า Normal Distribution อยู่ แต่ผมไม่ค่อยเทรด TF เล็กเพราะว่าต้นทุน (Spread ) มันสูง ข้อเสียเปรียบอีกอย่างคือ ความไม่แน่นอนของ ออเดอร์เทรดหากกำหนดไม่ชัดเจน ก็จะโดนมันควบคุม ตัวอย่างวิธีคิด
หากมีสัญญาณวันละ 10 ครั้ง เทรดกำไร 2 ครั้งแล้วเลิก ก็จะได้ 2 แต่ถ้าขาดทุนเทรดเรื่อย ๆ ก็หมายความว่าเราจะเสีย 10 ครั้งหรือมากกว่า แต่กำไรได้แค่ 2 ครั้ง (อันนี้ต้องไปดู Odd ratio ระหว่างเรากับ Broker หาได้โดยหาจาก (spread/TP)/(spread/SL) ซึ่งท่านจะพบว่ายิ่ง TF ต่ำ ยิ่งเสียเปรียบ มันทำให้เราอยู่ยากขึ้นไปอีก
แต่ถ้าเราควบคุม เช่น เทรดวันละ 3 ครั้งท่านก็จะเข้าหลักการความน่าจะเป็นเต็ม ๆ เมื่อกล่าวถึงหลักการความน่าจะเป็น สิ่งที่เราจะมีเพื่อชนะ มี 3 อย่าง คือ โอกาสชนะ อัตราต่อรอง และขนาดเงินทุน (%W, R:R, Balance)
เวลาที่เราเล่นเกมส์ ก่อนเราจะเล่น สิ่งที่เราต้องดูก่อนคือ โอกาสชนะ ซึ่งเกมส์ forex มีให้เลือก 2 ทาง คือ 1 เดิมพันว่าเราจะเราจะมี %W และ RR ดีกว่า Broker กับ 2 เดิมพันว่า ตลาดจะไม่เคลื่อนไหวผิดพลาด (กราฟเคลื่อนไหวโหด ๆ ) ซึ่งเกมส์ที่ 1 ก็เล่นแบบที่เล่นอยู่ เกมส์ที่ 2 เล่นแบบไม่มี SL ขึ้นอยู่กับรายละเอียดนั้นใครละเอียดกว่ากัน บอกได้เลย ว่า ดีทั้งสองอย่าง แล้วแต่ว่าใครปราณีตกว่ากัน เท่านั้นครับ